เรือนลิมิเต็ดสองรุ่นสุดพิเศษจากโอเรียนสตาร์คอลเลกชั่น M 42 ที่ได้แรงบันดาลใจจากแสงเหนือยามรุ่งอรุณ

เรือนลิมิเต็ดสองรุ่นสุดพิเศษจากโอเรียนสตาร์คอลเลกชั่น M 42 ที่ได้แรงบันดาลใจจากแสงเหนือยามรุ่งอรุณ

Orient Star เปิดตัวนาฬิกาสองรุ่นใหม่ภายใต้คอลเลกชั่นคอนเทมโพรารีในกลุ่ม M34 ได้แก่รุ่น M34 F7 Mechanical Moon Phase Limited Edition และ M34 F7 Semi Skeleton Limited Edition ซึ่งในแต่ละรุ่นถูกผลิตขึ้นเพียง 200 เรือน โดยที่นาฬิการุ่นใหม่นี้ได้สะท้อนภาพของแสงเหนือที่จะส่องแสงขึ้นเพียงชั่วครู่อยู่บนท้องฟ้ายามรุ่งอรุณด้วยการเลือกใช้หน้าปัดเปลือกหอยมุกแบบไล่เฉด แรงบันดาลใจในการออกแบบที่ได้จากแสงเหนือนั้นแสดงออกมาผ่านเส้นสายอันเฉียบคมของตัวเรือนซึ่งเป็นหัวใจหลักของนาฬิกาในคอลเลกชั่นคอนเทมโพรารี M34 ที่ซึ่งตั้งชื่อตามกลุ่มดาวเพอเซอุส

เรื่องราวของโลกและอวกาศถูกใช้เป็นแกนสำคัญในการออกแบบของโอเรียนท์สตาร์ซึ่งมุ่งมันในการผลิตเรือนเวลาให้เจิดจรัสดุจดวงดาวที่ส่องประกาย นาฬิกาภายใต้คอนเซปต์ของแสงเหนือนั้นได้เผยโฉมขึ้นครั้งแรกในปี 2023 กับรุ่น M34 F7 Semi Skeleton ที่สื่อภาพของม่านแสงที่เต็มไปด้วยสีสันลอยอยู่บนท้องฟ้าในยามคำคื่นด้วยหน้าปัดเปลือกหอยมุกแบบไล่เฉดและเป็นอีกครั้งที่โอเรียนท์สตาร์ได้สื่อถึงปรากฏการณ์แสงเหนือผ่านรุ่นลิมิเต็ด M34 F7 Mechanical Moon Phase และ M34 F7 Semi Skeleton

ด้วยความงดงามของงานออกแบบจากนาฬิการุ่นเด่นอย่าง semi skeleton และ moon phase นั้นสะท้อนภาพของแสงเหนือในยามรุ่งอรุณได้อย่างชัดเจน หน้าปัดเปลือกหอยมุกที่จะเปลี่ยนสีไปตามมุมมองที่ผนวกเข้ากับการเลือกใช้สีเทาอ่อนชวนให้นึกถึงกลุ่มหมอกที่ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้าในช่วงก่อนที่ดวงอาทิตย์ขึ้นในเช้าวันใหม่ กระจกคริสตัสแซฟไฟร์แบบโค้งทั้งด้านนอกและด้านในที่เคลือบสารกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน (SAR coating) ช่วยให้อ่านค่าเวลาบนหน้าปัดได้อย่างกระจ่างชัด นาฬิการุ่นใหม่นี้จึงเป็นเรือนเวลาที่มีเสน่ห์ดึงดูดสำหรับผู้ที่หลงใหลในนาฬิกาแบบกลไกด้วยความสวยงามและหน้าปัดที่ให้อารมณ์สงบ
ตัวเรือนและสายของนาฬิกาทั้งสองรุ่นผลิตขึ้นด้วยสเตนเลสสตีลเกรดพรีเมี่ยม (SUS316L) เส้นสายอันเฉียบคมของตัวเรือนถูกทำให้มีมิติด้วยการขัดขึ้นเงาด้วยกรรมวิธีซัลลาส (Sallaz) สลับกับการปัดเส้นแฮร์ไลน์ในบางตำแหน่ง สายโลหะที่มีข้อกลางรูปตัว H ช่วยให้สวมใส่ได้กระชับข้อมือมากยิ่งขึ้น

นาฬิการุ่นใหม่นี้ทำงานบอกเวลาด้วยเครื่องอัตโนมัติ in-house รหัส F7M65 และ F7F44 ที่มีความเที่ยงตรงสูงด้วยค่าความคลาดเคลื่อน +15 ถึง -5 วินาทีต่อวันพร้อมด้วยคุณสมบัติในการสะสมพลังงานสูงสุดที่ 50 ชั่วโมง เครื่องทั้งสองรุ่นได้รับการขัดแต่งด้วยลวดลายเจนิวาสตริป (Geneva strips) และขัดลบเหลี่ยมมุมเพื่อความสวยงามพร้อมอวดโฉมผ่านฝาหลังกระจกคริสตัลแซฟไฟร์พร้อมสลักคำว่า Limited Edition และหมายเลขประจำเรือนไว้ด้วย

There are no reviews yet.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *